Game of Thrones 1 ซีซันแรกของซีรีส์ดราม่าแฟนตาซีเรื่อง Game of Thrones ออกอากาศทางช่อง HBO เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2554 ในสหรัฐอเมริกา และจบลงเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2554 ประกอบด้วยสิบตอน ตอนละประมาณ 55 นาที ซีรีส์นี้มีพื้นฐานมาจาก A Game of Thrones นวนิยายเรื่องแรกในซีรีส์ A Song of Ice and Fire โดย George R. R. Martin ดัดแปลงสำหรับโทรทัศน์โดย David Benioff และ D. B. Weiss
เอชบีโอสั่งนักบินโทรทัศน์ในเดือนพฤศจิกายน 2551; การถ่ายทำเริ่มขึ้นในปีถัดมา อย่างไรก็ตาม ถือว่าไม่น่าพอใจและต่อมาได้มีการปรับบทบาทใหม่บางส่วน ในเดือนมีนาคม 2010 เอชบีโอสั่งซีซันแรก ซึ่งเริ่มถ่ายทำในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 ส่วนใหญ่ในเมืองเบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ โดยมีการถ่ายทำเพิ่มเติมในมอลตา
เรื่องราวเกิดขึ้นในโลกแฟนตาซี ส่วนใหญ่อยู่บนทวีป Westeros โดยมีโครงเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในอีกทวีปหนึ่งทางตะวันออกคือ Essos เช่นเดียวกับนวนิยาย ฤดูกาลแรกมุ่งเน้นไปที่ครอบครัวของขุนนางเอ็ดดาร์ด “เน็ด” สตาร์คผู้คุมแห่งทิศเหนือซึ่งถูกขอให้เป็นพระหัตถ์ของกษัตริย์ (หัวหน้าที่ปรึกษา) แก่เพื่อนเก่าแก่ของเขาคือคิงโรเบิร์ตบาราเธียน
เน็ดพยายามค้นหาว่าใครเป็นคนฆ่าจอน อาร์ริน โหลดสล็อตxo ผู้เป็นบรรพบุรุษของเขา เขาเปิดเผยความลับดำมืดเกี่ยวกับตระกูลแลนนิสเตอร์ผู้ทรงพลัง ซึ่งรวมถึงราชินีของโรเบิร์ต เซอร์ซี ที่บรรพบุรุษของเขาเสียชีวิตโดยพยายามจะเปิดเผย เรื่องนี้นำไปสู่การจับกุมเน็ดหลังจากโรเบิร์ตเสียชีวิตในข้อหากบฏ ร็อบบ์ ลูกชายคนโตของเน็ดเริ่มก่อกบฏต่อต้านพวกแลนนิสเตอร์ เน็ดถูกสังหารตามคำสั่งของกษัตริย์จอฟฟรีย์ บาราเธียน ลูกชายวัยรุ่นที่กดขี่ข่มเหงของเซอร์ซี
ในขณะเดียวกัน ใน Essos ผู้ถูกเนรเทศ Viserys Targaryen ลูกชายของอดีตกษัตริย์ บังคับให้ Daenerys น้องสาวของเขาแต่งงานกับขุนศึก Dothraki เพื่อแลกกับกองทัพที่จะไล่ตามการอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์เหล็ก ฤดูกาลจบลงด้วย Viserys ตายและ Daenerys กลายเป็น Mother of Dragons
Game of Thrones นำเสนอกลุ่มนักแสดงจำนวนมาก รวมถึงนักแสดงที่มีชื่อเสียง เช่น Sean Bean, Mark Addy, Nikolaj Coster-Waldau, Michelle Fairley, Lena Headey, Iain Glen และ Peter Dinklage นักแสดงหน้าใหม่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวละครรุ่นน้อง เช่น Emilia Clarke, Kit Harington, Sophie Turner และ Maisie Williams
นักวิจารณ์ยกย่องคุณค่าการผลิตและนักแสดงของรายการ การแสดงภาพของ Tyrion Lannister ของ Dinklage ได้รับรางวัลเฉพาะ เช่นเดียวกับ Bean และ Clarke รวมถึง Ramin Djawadi สำหรับดนตรี
ฤดูกาลแรกชนะสองรางวัลเอ็มมี่อวอร์ดสิบสามรางวัลซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง: นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในซีรีส์ดรามา (ดิงค์เลจ) และการออกแบบชื่อเรื่องหลักดีเด่น ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงซีรีส์ละครดีเด่นอีกด้วย ผู้ชมในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 33% ตลอดฤดูกาลจาก 2.2 ล้านเป็น 3 ล้านคนในตอนจบ
หากพูดถึงซีรีส์ Game of Thrones หรือ มหาศึกชิงบัลลังก์ เชื่อว่าแทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะถึงแม้จะไม่เคยดู แต่อย่างน้อยก็ต้องเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้างแหละจริงมั้ย? ซึ่งเกือบร้อยทั้งร้อยที่ได้มีโอกาสดูซีรีส์เรื่องนี้ทั้งที่ตั้งใจจะดูเอง อ่านนิยายแล้วชอบเลยมาดู ดูตามกระแส เพื่อนแนะนำให้ดู หรือหลงมาดู ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ไม่ดูไม่ได้” “นี่คือซีรีส์ที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์จะสร้างได้แล้ว” “ซีรีส์ที่ดีที่สุดในโลกอย่างแท้จริง” “ไม่มีเรื่องไหนสู้ Game of Thrones ได้” และติดกันงอมแงมแบบที่ไม่เป็นอันหลับอันนอน จนบางคนถึงกับไม่ไปทำงาน หรือโดดเรียนเพื่อที่จะได้ดูอย่างต่อเนื่องรวดเดียวยันจบกันเลยทีเดียว (ตัวผู้เขียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้น)
และเนื่องในวาระที่ซีรีส์มหากาพย์อีพิคเรื่องนี้กำลังจะกลับมาอีกครั้งเป็นปีที่ 7 หลังจากหยุดพักไปปีกว่าๆจนแฟนๆ รอกันจนรากงอกทรมานจิตทรมานใจ ดูซ้ำแล้วดูซ้ำอีกก็ยังไม่มาสักทีด้วยสเกลที่ใหญ่กว่าเดิม ซีจีอลังการกว่าเดิม กระผมเลยจะขอแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยดูรู้จักกับซีรีส์ชื่อดังเรื่องนี้กันเพื่อที่จะได้มีเวลาเตรียมตัวไล่ดูซีซั่น 1-6 ก่อนที่ซีซั่น 7 จะมา slotxo แล้วรับประกันได้เลยว่าพออ่านจบจะเข้าใจว่าทำไมเพื่อนๆ ของคุณที่แนะนำให้ดูซีรีส์เรื่องนี้ถึงต้องใช้คำว่า “ต้องดู” และทำไมเขาถึงดูกันทั่วบ้านทั่วเมืองขนาดนี้
Game of Thrones คือซีรีส์มหากาพย์พีเรียดแนวผจญภัย-ดราม่า-แฟนตาซี ของช่อง HBO ความยาว 50 นาที – 1 ชั่วโมงต่อเอพิโซด และมี 10 เอพิโซดต่อ 1 ซีซั่น ที่อำนวยการสร้างโดยสองผู้สร้าง เดวิด เบนิออฟฟ์ และ ดี. บี. ไวส์ ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีอันดับหนึ่งชุด “A Song of Ice and Fire” ของผู้เขียน George R. R. Martin โดยหยิบเอาชื่อของหนังสือเล่มแรกคือ “Game of Thrones” มาตั้งเป็นชื่อซีรีส์ ซึ่งหลังจากออกอากาศครั้งแรกไปเมื่อปี 2010 ผลคือได้รับเสียงตอบรับถล่มทลายเปรี้ยงปร้างสุดๆ จนช่องไม่ลังเลที่จะรีบอนุมัติให้สร้างซีซั่นต่อไปทันที หลังจากออกอากาศไปได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เป็นเวลา 6 ปีแล้วที่ Game of Thrones คอยสร้างสถิติใหม่ๆ และทำลายสถิติเดิมๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการเป็น ทำสถิติซีรีส์ที่เรตติ้งดีที่สุด ซีรีส์ที่ทุนสร้างสูงที่สุด ซีรีส์ที่อลังการงานสร้างที่สุด ซีรีส์ที่มีฉากแอ็กชั่นที่ดีที่สุด และซีรีส์ที่มีคนดูเยอะที่สุดในโลก ซึ่งฉายาพวกนี้ได้มาโดยไร้ข้อกังขา การันตีด้วยคะแนน 9.5/10 บนเว็บไซต์ IMDb และการกวาดรางวัลจากสถาบันต่างๆ ไปถึง 212 รางวัล รวมถึงรางวัล Emmy Awards (ที่เปรียบได้กับ Oscar ของวงการโทรทัศน์) ไปได้ถึง 38 รางวัล จากการเข้าชิง 110 รางวัล!!
มาถึงตรงนี้เชื่อว่าอยากรู้แล้วล่ะสิว่าอะไรทำให้มันได้รางวัลเยอะมากมายก่ายกองขนาดนั้น ต้องบอกก่อนว่าหากคุณคิดว่า “Game of Thrones คงเป็นอะไรที่เหมือนๆ กับหนังแฟนตาซีอย่างไตรภาค The Lord of the Rings ล่ะวะ” คุณคิดผิดครับ หรือ “ฟังจากชื่อแล้วมันก็แค่ซีรีส์ที่คงเล่นเกมการเมืองแบบเดิมๆ คนนู้นใช้อำนาจควบคุมคนนี้ ใช้คนนี้เป็นหมากทำลายคนนู้น” ถือว่ามีส่วนถูกบ้างแต่ก็ แอ๊ดดดด!! ยังผิดอยู่ดีครับสาเหตุที่คนดูจำนวนมากทั่วโลกรักซีรีส์เรื่องนี้ เพราะ Game of Thrones เป็นซีรีส์ที่มีคุณภาพในทุกๆ ด้าน ย้ำนะครับว่า “ทุกๆ ด้าน” จริงๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการกำกับและการตัดต่อที่ลงตัว ด้านภาพ การเลือกโลเคชั่น โปรดักชั่นหรือการเซตฉากที่ใหญ่โตสมจริง เสื้อผ้าและอุปกรณ์ประกอบฉากที่สวยงามเว่อร์วังอลังการ ซีจีที่สุดเนียนและทำได้ดีกว่าหนังใหญ่หลายเรื่อง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยความสามารถของทีมสร้าง หนังสือต้นฉบับที่เป็นซอร์ซที่มีคุณภาพ และทุนสร้างจำนวนมหาศาลที่สูงกว่าซีรีส์เรื่องไหนๆ
Game of Thrones มีเนื้อหาเกี่ยวกับทวีปเวสเทอรอสและเจ็ดอาณาจักรที่มีผู้คุมอำนาจหลักๆ อยู่สี่ตระกูลคือ ตระกูลบาราเธี่ยน (ตระกูลที่ใช้สัญลักษณ์เป็นกวาง), ตระกูลแลนนิสเตอร์ (ตระกูลที่ใช้สัญลักษณ์เป็นสิงโต), ตระกูลทาร์แกเรี่ยน (ตระกูลที่ใช้สัญลักษณ์เป็นมังกรและมีความสามารถในการควบคุมมังกร) และตระกูลสตาร์ค (ตระกูลที่ใช้สัญลักษณ์เป็นหมาป่าและมีหมาป่าไดร์วูฟเป็นสัตว์เลี้ยง) โดยบางตระกูลเป็นพันธมิตรกัน และบางตระกูลเป็นอริจ้องจะล้างบางกันมาอย่างยาวนาน
เรื่องราวทั้งหมดในซีรีส์เริ่มต้นด้วยการที่กษัตริย์โรเบิร์ต บาราเธี่ยน เดินทางมายังแดนเหนือเพื่อเชื้อเชิญให้เน็ด สตาร์ค ไปทำหน้าที่เป็นมือขวาที่เมืองหลวง เนื่องจากมือขวาคนล่าสุดได้เสียชีวิตลงก่อนเวลาอันควรด้วยสาเหตุบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล ทางเข้า xo แต่แล้วกลับมีเหตุการณ์ๆ นึงที่เป็นเหตุการณ์เล็กๆ แต่สำคัญ และจุดชนวนให้เกิดปมขัดแย้งใหม่จนทำให้มันดำเนินเรื่องราวมาอย่างเข้มข้นจนถึงปัจจุบันนี้เลยทีเดียว
“เชียร์ตัวไหนชอบตัวไหน ตัวนั้นต้องตายทุกที” นี่เป็นคำที่หลายๆ คนคงได้ยินแฟนๆ Game of Thrones พูดกันอยู่บ่อยครั้ง ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างจะ “เรียล” และ “ดาร์ก” ครับ ฉะนั้นมันจึงไม่เหมาะกับคนที่ต้องการดูอะไรสดใสฟรุ้งฟริ้งหรือแสวงหาเรื่องราวประเภทคนดีชนะคนชั่วเลยสักนิด
นั่นก็เพราะผู้แต่งนิยายต้องการจะบอกเราว่า “โลกความจริงมันโหดร้าย” ตัวละครทุกตัวจึงตายได้หมด และที่สำคัญคือ การตายแต่ละครั้งจะมาโดยที่คุณไม่ทันตั้งตัว และจะทำให้คุณช็อกแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ชนิดที่เหมือนอยู่ในช่วงแผ่นดินไหวระดับ 10 ริกเตอร์เลยทีเดียว แถมบางตัวละครตายด้วยวิธีที่ไม่น่าตายสุดๆ คือถ้าได้ไปดูเองจะไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่เลยครับว่าทำไมคนเขาถึงด่าลุงอ้วนผู้แต่งกันขนาดนั้น
ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ Game of Thrones ครองใจแฟนๆ ทั่วโลกคือตัวบทและเนื้อเรื่องที่เข้มข้นน่าติดตาม จากเท่าที่เห็นแทบจะไม่มีใครดูตอนแรกจบแล้วไม่อยากดูต่อเลยครับ ซีรีส์มีการวางปมและโครงสร้างเรื่องอย่างแข็งแรงแบบแทบไม่มีช่องโหว่ เพราะมันเป็นการวางโครงเรื่องระยะยาวที่คิดอย่างถี่ถ้วนแบบล่วงหน้าหลายซีซั่น ความน่าสนใจคือการที่ตัวละครหลักเรื่องนี้มีหลายตัวและอยู่กระจัดกระจายกัน เราจึงได้รับชมเรื่องราวหลายๆ ด้านหลายๆ ฝั่งสลับกันไปมา ซึ่งแต่ละด้านก็ไม่ได้พีคน้อยไปกว่ากัน และการเฉลี่ยบทก็ทำได้ดีจนน่าทึ่งเลยด้วย
และสิ่งนึงที่ทำให้ Game of Thrones สนุกคือ บทสนทนาที่เปรียบเสมือนฉากแอ็กชั่นของเรื่องนี้ การที่ตัวละครพูดจาเชือดเฉือนกันเป็นอะไรมันและทำให้เราใจจดใจจ่อได้ตลอด ซึ่งถึงฉากต่อสู้จริงๆ จะมีน้อย แต่พอมีทีนึงแล้วมันขลังสุดๆ เลยนะเออ
ซีรีส์เรื่อง Game of Thrones 1 นี้ยังมีการเฉลี่ยบท และออกแบบตัวละครที่ดีขั้นเทพ ตัวละครที่คุณจะได้เจอจะเป็นตัวละครที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีมิติ และมีความเป็นมนุษย์มากๆ เพราะสีของตัวละครแทบทุกตัวจะไม่ขาว ไม่ดำ แต่เป็น “สีเทา” ส่วนการแคสนักแสดงก็เพอร์เฟ็กต์สุดๆ นักแสดงแต่ละคนเข้ากับบทบาทแบบที่เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อบทนี้เลยก็ว่าได้ รวมๆ ทั้งหมดนี้ทำให้กล้ารับประกันเลยว่าพอได้ดูแล้วคุณจะหลงรักตัวละครทุกตัวแน่นอน ไม่ว่าตัวละครตัวนั้นจะเป็นคนดีหรือไม่ก็ตาม
และนอกเหนือจากที่พูดทั้งหมดแล้ว “ความแฟนตาซี” เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เรื่องนี้ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ในโลกของ Game of Thrones นั้นมีทั้งเวทมนตร์เอย เทพเอย วัตถุและอาวุธศักดิ์สิทธิ์เอย คนที่ตายแล้วฟื้นได้เอย เด็ดสุดก็เห็นจะเป็นสิ่งมีชีวิตแฟนตาซีทั้งหลายแหล่ ทั้ง ไวท์วอล์กเกอร์ (ซอมบี้น้ำแข็ง) คนยักษ์ เด็กแห่งพงไพรผู้มีชีวิตยาวนานเป็นพันๆ ปี พ่อมดแม่มด หมาป่ายักษ์ และมังกร และนอกจากนี้ยังจะมีผู้มีพลังพิเศษที่สามารถควบคุมร่างกายสิ่งมีชีวิตอื่นกับนักฆ่าเปลี่ยนหน้าได้อีกด้วยนะ
แค่นี้ก่อนแล้วกัน ถ้าให้พูดถึงข้อดีของซีรีส์เรื่องนี้เดี๋ยวจะยาว เพราะพิมพ์ได้อีกเย้อออ เอาเป็นว่าถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจอยากดูก็ลองดูเลย ส่วนคนที่ไม่รู้จักแล้วลังเลว่าจะดูดีมั้ย ลองไปถามคนรอบตัวที่เป็นแฟนซีรีส์เรื่องนี้ดูว่า “Game of Thrones สนุกมั้ย?” คำตอบที่ได้จะเป็นเสียงเดียวกันและไม่ต่างจากที่กระผมเพิ่งพูดไปแน่นอน
บทความที่น่าสนใจ
LEGO Scooby-Doo Haunted Isle
Y8 Games
Game Jolt
Miami Slot
อัพเดทล่าสุด : 11 ตุลาคม 2021 (ข้อมูลล่าสุดปี 2021)